Review Smooth E Baby face Gel สำหรับผิวบอบบางและเป็นสิวง่าย

SMOOTH E BABYFACE GEL
สมูทอี เบบี้เฟซเจล สูตรเอ็กซ์ตร้า เซนซิทีฟ คลีนซิ่งเจล

เชื่อว่าเพื่อนน่าจะต้องเคยเห็นแน่นอน เพราะเจ้าตัวที่ซินกำลังจะ รีวิว นั้น คือเจ้าตัวสมูทอีโฟมไม่มีฟองนั่นเอง หลายคนคงสงสัยหรือติดนิสัยใช้โฟมที่มีฟองจนชิน เพราะคิดว่ามันล้างแล้วสะอาด แต่รู้ไหมว่า การใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่มีฟอง เป็นการทำร้ายผิวทางหนึ่งเลยนะคะ

วันนี้ซินจะมาอธิบายว่าเจ้าฟองเนี่ยมีผลเสียอย่างไรบ้าง

วันนี้เราจึงขอนำเสนอความแตกต่างระหว่างโฟมมีฟองกับโฟมไม่มีฟองมาให้สาว ๆ ได้ทำความรู้จักกัน มากขึ้นคะ

1. โฟมล้างหน้าประเภทมีฟอง สารที่ให้ฟองมาก มักจะเป็นสารทำความสะอาดที่มีประจุไฟฟ้าเป็นประจุลบ (Anionic surfactant) ซึ่งหลังจากใช้ล้างหน้าแล้วมักจะมีผิวแห้งตึง ยิ่งถ้าคุณล้างหน้าบ่อย ๆ จะยิ่งมีผิวหน้าแห้งตึงมากยิ่งขึ้น สารในกลุ่มนี้คือ โซเดียม ลอริล ซีลเฟต (sodium lauryl sulfate หรือ SLS) ซึ่งมักจะก่อให้เกิดผื่นระคายสัมผัสได้บ่อย ๆ (Irritant contact dermatitis)

นอกจากนี้ สารที่มีประจุเป็นลบ จะจับกับประจุบวกบนผิวหน้าทำให้เกิดสารตกค้างบนผิวหน้าได้ง่าย ยิ่งนานวันเข้าก็จะยิ่งสะสมมากขึ้น ก่อให้เกิดการอุดตันบริเวณต่อมรูขุมขน ทำให้เกิดสิวอุดตันได้ง่าย ที่เราเรียก "โคมีโดน" (Comedone)

2. โฟมล้างหน้าประเภทไม่มีฟอง สารที่ใช้ทำความสะอาดผิวหน้าจะเป็นชนิดที่ไม่มีประจุไฟฟ้า (Nonionic surfactant) พวกครีมโฟมล้างหน้าที่ไม่มีฟองนี้ เมื่อนำมาใช้ล้างหน้าจะมีข้อดีคือ ชำระล้างออกด้วยน้ำได้ง่าย เนื่องจากไม่มีประจุไฟฟ้านั่นเอง จึงไม่ทิ้งสารตกค้างบนผิวหน้า ไม่มีการสะสมที่ผิวหน้า ไม่ก่อให้เกิดอาการระคายเคืองต่อผิว ไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน ดังนั้นจึงไม่มีสิวอุดตันเกิดขึ้น เมื่อใช้โฟมไม่มีฟองล้างหน้า ผิวหน้าจึงดูสดใส ไร้ริ้วรอย และไม่แห้งตึงหลังการล้างหน้า

คราวนี้เพื่อนๆเห็นถึงความแตกต่างกันแล้วใช่ไหมคะ ว่าหน้าของเราเหมาะสมที่จะใช้แบบไหนมากกว่า เพราะวันๆนึงเราต้องล้างหน้าอย่างน้อยวันละ2ครั้ง หรือมากกว่านั้น นั่นคือการทำร้ายผิวทุกวัน

แต่อย่ากังวล วันนี้ smooth E ช่วยได้😚😚😚😚